ปัจจุบันเทคโนโลยีเราหมุนไปไกลมาก เรามาถึงในยุคที่ทุกคนสามารถเป็นครีเอเตอร์ได้ เพียงแค่ถ่ายวีดีโอแล้วอัปเดตคอนเทนต์แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องแบกโน๊ตบุ๊คให้เกะกะ ดังนั้นสิ่งจำเป็นที่สุดนอกจากกล้องหรือโทรศัพท์ คือ การมีแอปตัดต่อวิดีโอดี ๆ สักตัวติดมือถือไว้นั่นเองครับ เป็นเหมือนมีอาวุธลับในการสร้างสรรค์คอนเทนต์สุดปัง ไม่ว่าคุณจะเป็นครีเอเตอร์สายแฟชั่น สายอาหาร หรือสายไหน ๆ ก็สามารถสร้างสรรค์ในการผลิตวีดีโอใหม่ ๆ ได้อย่างมีคุณภาพ ดูเป็นมืออาชีพได้ก่อนใครครับ ไม่ว่าจะเป็นการใส่เอฟเฟกต์ต่าง ๆ หรือการตัดต่อคลิปให้สวยงาม ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ใช้มือถือเครื่องเดียว ที่สำคัญการมีโปรแกรมตัดต่อวิดีโอในมือถือ ยังช่วยย่นระยะเวลา ให้สามารถแบ่งเวลาไปบริหารจัดการ คิดคอนเทนต์สุดคูลอย่างอื่นได้อีกด้วย ดังนั้นวันนี้ Converzilla เราได้มัดรวม 10 โปรแกรมตัดต่อวิดีโอในมือถือที่ทั้งใช้งานง่าย และเต็มไปด้วยฟีเจอร์เด็ด ๆ ให้เลือกโหลด ว่ามีแอปไหนที่ต้องโหลดติดเครื่องมาฝากกันครับ
ทำไมต้องมีแอปตัดต่อวีดีโอในมือถือติดเครื่อง
คอนเทนต์ที่มาแรงที่สุดในยุคนี้คงต้องยกให้ประเภทคลิปวีดีโอครับ ในยุคที่ทุกคนสามารถเป็นครีเอเตอร์ได้ แอปตัดต่อวิดีโอบนมือถือจึงกลายเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับใครหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคลิปสั้น ๆ โปรโมทสินค้า หรือแค่บันทึกช่วงเวลาดี ๆ แอปเหล่านี้ก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครบครัน ไม่ว่าคุณจะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ หรือแค่คนเล่นโซเชียลมีเดียธรรมดาทั่วไป ก็สามารถตัดต่อวิดีโอได้ทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่มีมือถือเครื่องเดียว ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือแม้กระทั่งระหว่างเดินทาง ไม่ต้องรอจนกว่าจะกลับไปนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องเป็นเดอะแบก พกโน๊ตบุ๊คให้เกะกะ ด้วยความสามารถของแอปตัดต่อวิดีโอสมัยใหม่ ที่มาพร้อมฟังก์ชันที่ครบครัน ทั้งการตัดต่อ การเพิ่มเอฟเฟกต์ เพลง และข้อความ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายวิดีโอสั้น หรือสาย Vlog เมื่อตัดต่อเสร็จแล้วก็สามารถแชร์ลงโซเชียลมีเดียได้ทันทีแบบเรียลไทม์ครับ
Video Marketing ในยุคปัจจุบัน
Video Marketing คือ การใช้วิดีโอเป็นเครื่องมือในการโปรโมต หรือทำการตลาดสินค้าและบริการ โดยการสร้างและแชร์เนื้อหาวิดีโอที่มีทั้งข้อมูลสาระ ความบันเทิง หรือแรงบันดาลใจ เพื่อดึงดูดผู้ชมและกระตุ้นให้เกิดการตอบสนอง เช่น การซื้อสินค้า การสมัครบริการ หรือการติดตามแบรนด์ผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ สร้างความรู้จัก การจดจำแบรนด์ในหมู่ผู้ชม ให้แบรนด์สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ใกล้ชิดมากขึ้น
ในยุคปัจจุบัน Video Marketing กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญ ที่มีอิทธิพลสูงมากในการทำการตลาดออนไลน์ครับ เนื่องจากการใช้วิดีโอในการสื่อสารสามารถดึงดูดความสนใจ ได้ดีกว่าเนื้อหาประเภทอื่น ๆ สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่าแบบรูปภาพ ถ่ายทอดข้อมูล และข้อความได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย จนเป็นเครื่องมือสำคัญที่แบรนด์ต่าง ๆ นำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย วิดีโอไม่เพียงแค่ช่วยให้แบรนด์สามารถเล่าเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ แต่ยังสามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้ดีกว่ารูปแบบอื่น ๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการกระตุ้นให้ผู้ชมมีส่วนร่วม เช่น กดไลค์ แชร์ หรือแสดงความคิดเห็น เพื่อเพิ่มยอดขายได้ดีเลยทีเดียวครับ
10 โปรแกรมตัดต่อวิดีโอยอดนิยมที่ใช้งานบนมือถือ
ในยุคที่มีราชาคอนเทนต์ถือกำเนิดมากมาย การมีแอปตัดต่อวิดีโอดี ๆ สักตัวติดเครื่อง ก็เหมือนมีอาวุธลับในการสร้างสรรค์ผลงานสุดโฮ่ง! วันนี้เราจะมาแนะนำ 10 แอปตัดต่อวิดีโอยอดนิยม ระดับตัวตึง ที่ตอบโจทย์ทั้งมือใหม่และมือโปร มาดูกันเลยว่าแต่ละแอปมีจุดเด่นอะไรบ้าง แล้วคุณเหมาะกับแอปไหนครับ
แอปตัดต่อวิดีโอตัวดังแห่งยุคนี้ คงต้องมอบมงให้กับอิปนี้ครับ เป็นแอปที่ใช้งานง่าย มีฟีเจอร์ครบครัน ทั้งการเพิ่มเอฟเฟกต์ ฟิลเตอร์ เพลง และการตัดต่อที่ปรับแต่งได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับมือใหม่ และระดับมืออาชีพ
จุดเด่น : ใช้งานง่าย มีเทมเพลตให้เลือกเยอะ เหมาะสำหรับมือใหม่
ข้อดี : เอฟเฟกต์หลากหลาย ตอบโจทย์เทรนด์ TikTok มีฟังก์ชัน AI ปรับปรุงคุณภาพวิดีโอ
ข้อเสีย : ฟีเจอร์ขั้นสูงมีจำกัดสำหรับผู้ที่ต้องการการปรับแต่งแบบละเอียด
ถ้าใครอยากได้ฟีเจอร์เยอะ ๆ ตัดหลายเลเยอร์พร้อมกัน แอปนี้ไม่ทำให้ผิดหวังครับ ใครชอบใส่ลูกเล่นเยอะ ๆ จัดเต็มได้เลย เพราะตัวแอปนี้สร้างมาเพื่อคนที่ต้องการ เครื่องมือขั้นสูง เช่น การตัดต่อ หลายเลเยอร์ (Layers) วางวิดีโอหลายคลิปซ้อนกันได้แบบง่าย ๆ สามารถปรับความเร็วของวิดีโอได้ มีฟีเจอร์ที่เหมือนกับโปรแกรมตัดต่อบนคอมพิวเตอร์ เช่น การปรับ สีวิดีโอ หรือใส่เอฟเฟกต์พิเศษ ได้มากมาย
จุดเด่น : ฟีเจอร์ครบครัน สามารถปรับแต่งได้ละเอียด
ข้อดี : มีเครื่องมือปรับสี เพิ่มเลเยอร์ และเอฟเฟกต์พิเศษเยอะ เหมาะสำหรับงานตัดต่อระดับมืออาชีพ
ข้อเสีย : อินเทอร์เฟซอาจซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น
สำหรับใครที่ทำคลิป Instagram หรือ TikTok แอปนี้เหมาะเลยทีเดียวครับ มีเครื่องมือปรับขนาดภาพ สามารถตัด ใส่เพลง ใส่ข้อความ/สติกเกอร์ได้ไวเลยครับ เป็นแอปที่ใช้งานง่ายสุด ๆ แถมยังแชร์ไปยังโซเชียลมีเดียได้ทันที
จุดเด่น : ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันครบครัน ทั้งตัดต่อ เพิ่มเพลง ตกแต่งภาพ
ข้อดี : มีฟิลเตอร์และเอฟเฟกต์ให้เลือกเยอะ เหมาะสำหรับการทำคลิปสั้นแบบง่ายแต่รวดเร็ว
ข้อเสีย : ฟังก์ชันบางอย่างอาจจะจำกัดสำหรับผู้ใช้งานฟรี
ฟีเจอร์มันจัดเต็มเหมือนกัน แต่มันใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก จุดเด่นของ VivaVideo คือ เทมเพลตสำเร็จรูป ที่เลือกใช้งานทันที ไม่ต้องมาเริ่มตัดต่อเองทั้งหมด เหมาะกับการทำคลิปสั้น ๆ หรือคลิปที่มีธีมเดิมๆ หรือทำวิดีโอแนะนำสินค้า ก็สามารถใช้เทมเพลตที่มีให้ได้เลยนั่นเองครับ
จุดเด่น : มีเอฟเฟกต์ เทมเพลตสำเร็จรูป และสติกเกอร์น่ารักมากมาย
ข้อดี : มีเพลงประกอบให้เลือกเยอะ เหมาะสำหรับการทำคลิปสั้น ๆ สไตล์น่ารัก
ข้อเสีย : อาจมีโฆษณาค่อนข้างเยอะ
เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่ฟีเจอร์จัดเต็มไม่แพ้กัน ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ด้วยจุดเด่นในการปรับแต่งสีสันและโทนของวิดีโอได้อย่างละเอียด ฟีเจอร์ครบครัน ใส่เพลง เอฟเฟกต์เสียง หรือใส่ข้อความ และเจ้าตัวแอปนี้ยังรองรับ การตัดต่อหลายเลเยอร์ได้ สามารถสร้างการ์ดหรือสตอรี่บอร์ดให้เนื้อหาดูดีขึ้น
จุดเด่น : มีเครื่องมือสำหรับปรับสีและแสงได้ละเอียด
ข้อดี : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับแต่งสีสันของวิดีโอ
ข้อเสีย : ฟังก์ชันบางอย่างอาจจะซับซ้อน
แค่เลือกคลิปแล้วแอปจะช่วยทำทุกอย่างให้! อันนี้ไม่เกินจริงครับ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ วิดีโอเร็วๆ เพราะ Quik สามารถ ตัดต่อให้เสร็จภายในไม่กี่วินาที เพียงแค่เลือกคลิปที่ต้องการ แอปจะทำการเลือกส่วนที่ดีที่สุดจากคลิปเหล่านั้นแล้วสร้างวิดีโอให้ทันที โดยมี เพลงและเอฟเฟกต์ ที่เหมาะสมกับเนื้อหาของคลิปให้โดยอัตโนมัติ
จุดเด่น : สร้างวิดีโอได้รวดเร็วด้วยเทมเพลตสำเร็จรูป
ข้อดี : ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างวิดีโอแบบรวดเร็ว
ข้อเสีย : ตัวเลือกในการปรับแต่งอาจจะจำกัด
ถ้าอยากได้คุณภาพแบบมือโปร แต่ไม่อยากไปเรียนตัดต่อยาก ๆ แอปนี้ตอบโจทย์เลยครับ ใช้ฟีเจอร์ระดับมืออาชีพได้ง่าย ๆ บนมือถือ ปรับแต่งสี และเอฟเฟกต์ระดับมืออาชีพ สามารถจัดการเสียงได้อย่างลื่นไหล รวมถึงการตัดต่อวิดีโอหลายเลเยอร์ และแอปนี้ยังสามารถทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันอื่น ๆ ในตระกูล Adobe ได้ เช่น Photoshop, After Effects และซิงค์งานกับ Adobe Premiere Pro บนคอมพิวเตอร์ได้ด้วย เหมาะกับผู้ที่อยากทำงานแบบมืออาชีพ แต่ไม่ยุ่งยากจริง ๆ ครับ
จุดเด่น : เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอจาก Adobe ใช้งานง่าย มีฟีเจอร์ครบครัน
ข้อดี : สามารถซิงค์กับโปรแกรมอื่นๆ ในตระกูล Adobe ได้
ข้อเสีย : ต้องสมัครสมาชิก Creative Cloud เพื่อใช้งานฟีเจอร์เต็มรูปแบบ
อีกแอปที่ทำให้ว้าวได้เหมือนกันครับ เพราะเค้ารองรับการตัดต่อวิดีโอหลายเลเยอร์ได้ ทำให้คุณสามารถเพิ่มเอฟเฟกต์ เปลี่ยนความเร็วของวิดีโอได้แบบละเอียด มีเครื่องมือให้ปรับแต่งสี วิดีโอ หรือใส่ฟิลเตอร์ให้วิดีโอดูสวยขึ้น รวมถึงการเพิ่มเพลง หรือเสียง ได้ง่าย ๆ ไม่ต้องยุ่งยาก และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทำให้ PowerDirector น่าสนใจคือตัว เอฟเฟกต์ 4K ที่ทำให้วิดีโอดูคมชัดขึ้น ได้คลิปมีคุณภาพสูงขึ้น ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน เหมาะกับทั้งมือใหม่ที่เริ่มตัดต่อ และมืออาชีพที่ต้องการทำงานบนมือถือครับ
จุดเด่น : มีฟีเจอร์ครบครัน สามารถสร้างเอฟเฟกต์พิเศษได้หลากหลาย
ข้อดี : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการงานตัดต่อระดับมืออาชีพ
ข้อเสีย : อินเทอร์เฟซอาจจะดูซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น
แอปนี้มันเหมาะกับคนที่อยากได้ผลลัพธ์เร็วแบบไม่ต้องคิดเยอะ มีเทมเพลตสำเร็จรูปให้เลือกใช้ได้เลย แค่ลากแล้ววางคลิป ก็สร้างสรรค์วิดีโอได้ภายในไม่กี่นาที ไม่ต้องมีทักษะอะไรมากมาย มีฟีเจอร์ปรับความเร็วของวิดีโอได้ เช่น ถ้าอยากให้วิดีโอดูเร็วหรือช้าลงก็ทำได้ง่าย ๆ อีกทั้งยังรองรับการตัดต่อหลายคลิปพร้อมกัน หากต้องการทำหลายช็อตในคลิปเดียว และยังมีเอฟเฟกต์ให้เลือกใช้เยอะ ทั้งฟิลเตอร์ สติ๊กเกอร์ ข้อความเก๋ ๆ พร้อมคลังเพลงให้เลือกใช้ฟรีอีกเยอะแยะ หรือจะอัปโหลดเพลงโปรดของคุณเองก็ได้เช่นกัน และยังสามารถแชร์ไปยังแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่าง Instagram, TikTok, Facebook หรือ YouTube ได้ทันทีหลังจากตัดต่อเสร็จ
จุดเด่น : ใช้งานง่าย มีเทมเพลตให้เลือกเยอะ เหมาะสำหรับมือใหม่
ข้อดี : มีเอฟเฟกต์และเพลงให้เลือกใช้ฟรี
ข้อเสีย : ฟังก์ชันอาจจะจำกัดสำหรับงานตัดต่อที่ซับซ้อน
สำหรับใครที่ชอบการตัดต่อหลายเลเยอร์ หรืออยากทำคลิปให้มีลูกเล่นเยอะ แอปนี้ตอบโจทย์ได้ดีครับ ด้วยฟีเจอร์ที่ใช้งานง่ายแต่ให้ผลลัพธ์ดูดี นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งความเร็วของคลิป ปรับสีได้อย่างละเอียด มีเครื่องมือกราฟิกเพิ่มเอฟเฟกต์พิเศษ ที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับวิดีโอด้วยการสร้างภาพเคลื่อนไหวจากการใช้ Keyframe ถ้าคุณใช้หลายอุปกรณ์ เช่น มือถือและแท็บเล็ต สามารถซิงค์งานที่ทำบนอุปกรณ์หนึ่งไปยังอีกอุปกรณ์ได้สบายเลยครับ
จุดเด่น : ใช้งานง่าย มีฟีเจอร์ครบครัน รองรับการปรับแต่งได้หลากหลาย
ข้อดี : มีเอฟเฟกต์ และเพลงให้เลือกใช้ฟรีไม่มีโฆษณาคั่น
ข้อเสีย : ฟังก์ชันบางอย่างอาจจะซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น
อนาคตของการตัดต่อวิดีโอบนมือถือ : อัปเดตและฟีเจอร์ใหม่
ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วครับ อนาคตของการตัดต่อวิดีโอบนมือถือกำลังไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างสุดโต่ง จะมาพร้อมกับความสะดวกสบายที่มากขึ้น ฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างการใช้ AI หรือ AR การตัดต่อความละเอียดสูง และความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น จะทำให้การสร้างสรรค์ผลงานวิดีโอจากมือถือ กลายเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย และรวดเร็วมากขึ้น พร้อมทั้งให้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพสูงไม่แพ้การตัดต่อบนคอมพิวเตอร์เลยครับซึ่งมีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจดังนี้ครับ
- การใช้ AI ในการตัดต่อ
ฟีเจอร์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเข้ามาช่วยในการตัดต่อวิดีโอแบบอัตโนมัติมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การตัดต่ออัตโนมัติที่ AI สามารถเลือกคลิปที่ดีที่สุดจากทั้งหมดมาเรียงให้โดยอัตโนมัติ ตัดคลิปที่ไม่ต้องการออก การปรับสีหรือเสียงอัตโนมัติ ทำให้วิดีโอดูดีขึ้นในพริบตา หรือแม้แต่แปลภาษาแบบเรียลไทม์ สร้างตัวละครเสมือนจริงได้ ทำให้การสร้างสรรค์คอนเทนต์เป็นเรื่องง่ายขึ้น
- การรองรับการตัดต่อวิดีโอ 4K และ 8K บนมือถือ
ในอนาคตมือถือจะสามารถรองรับการตัดต่อวิดีโอใน ความละเอียด 4K หรือ 8K ได้อย่างลื่นไหลโดยไม่สะดุด ทำให้สามารถผลิตผลงานวิดีโอความละเอียดสูงได้จากมือถือ โดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เลยครับ
- การตัดต่อแบบ 3D และ AR (Augmented Reality)
การใช้งาน เทคโนโลยี 3D และ AR จะทำให้สามารถเพิ่มเอฟเฟกต์ 3 มิติหรือกราฟิกเสมือนจริงในวิดีโอได้ง่ายขึ้น เพียงแค่ใช้มือถือเครื่องเดียว ก็สามารถสร้างวิดีโอที่ดูเหมือนมีเอฟเฟกต์ระดับโปรเลย
- การทำงานร่วมกับเครื่องมือ Cloud
แอปตัดต่อวิดีโอจะเริ่มรองรับการทำงานบน Cloud ช่วยให้คุณสามารถทำงานร่วมกับคนอื่นได้แบบออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในที่เดียวกัน และยังสามารถเข้าถึงไฟล์ที่ตัดต่อได้จากทุกที่ทุกเวลา
- การตัดต่อวิดีโอแบบร่วมมือ (Collaborative Editing)
ฟีเจอร์การตัดต่อร่วมกัน จะช่วยให้กลุ่มคนสามารถร่วมกันทำงานบนโปรเจ็กต์เดียวกันได้อย่างง่ายดาย เช่น การแชร์และทำงานร่วมกันในวิดีโอเดียวกัน จากอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยซิงค์การเปลี่ยนแปลงในทันที
- การรองรับการใช้งาน VR (Virtual Reality)
ในอนาคตอาจจะมีการพัฒนาเครื่องมือที่ให้สามารถตัดต่อวิดีโอ VR ได้จากมือถือ ซึ่งจะช่วยให้คนที่ทำงานในอุตสาหกรรม VR สามารถทำการตัดต่อได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
- การปรับแต่งเสียงขั้นสูง
ฟีเจอร์การปรับเสียงจะได้รับการพัฒนาให้มีความละเอียดมากขึ้น เช่น การเพิ่มเสียงบรรยากาศ (Ambience) หรือเสียงจากธรรมชาติ แบบเสียงสภาพแวดล้อม ซึ่งจะทำให้วิดีโอดูมีมิติและสมจริงมากขึ้น
Case Studies
ร้านค้าออนไลน์จากแพลตฟอร์ม TikTok : TikTok Shop Video คือ ฟีเจอร์ใหม่ใน ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าผ่านวิดีโอที่ถูกแชร์ในแอปได้โดยตรง โดยที่ไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม TikTok ทำให้ประสบการณ์การช็อปปิ้งเป็นเรื่องง่ายขึ้น สำหรับทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ เพียงแค่ทำคลิปวีดีโอเล่าเรื่องราวที่ไม่เหมือนใครของสินค้า หรือธุรกิจ เติมแต่งความเติมความครีเอทลงไปในวีดีโอให้น่าสนใจขึ้น เพียงเท่านี้ก็ได้ยอดขายถล่มทลายแล้วครับ
L’Oréal Paris : เครื่องสำอางและสกินแคร์ระดับยักษ์ใหญ่ เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลายประเภทที่เกี่ยวกับสกินแคร์ เครื่องสำอาง การดูแลเส้นผม และการดูแลความงามอื่น ๆ ที่ได้ขายผ่านช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะ TikTok Shopee Lazada ด้วยคลิปวีดีโอโปรโมทสินค้าเพียงสั้น ๆ รวมไปถึงการรีวิวจากอินฟลูเอนเซอร์ท่านอื่นที่ช่วยทำคลิปวีดีโอกระตุ้นยอดขายให้กับทางแบรนด์
ยุคที่มีมือถือเพียงแค่เครื่องเดียวก็สามารถสร้างรายได้แล้วครับ เพียงแค่รู้วิธีใช้และมีแอปดี ๆ สักแอป การทำคลิปวีดีโอก็เป็นหนึ่งในวิธีสร้างรายได้ และสร้างความทรงจำเช่นกันครับ ดังนั้นการมีแอปตัดต่อวิดีโอในมือถือ เป็นสิ่งที่จำเป็นในยุคดิจิทัลนี้ครับ เพราะช่วยให้เราสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการทำคลิปสั้นโปรโมทสินค้า หรือบันทึกช่วงเวลาดี ๆ ช่วยให้คุณสามารถสื่อสารความคิด และไอเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทุกที่ทุกเวลา โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์ หรือซอฟต์แวร์ที่มีความซับซ้อน เพียงแค่มีโปรแกรมตัดต่อวิดีโอบนมือถือ ดังนั้นลองเลือกแอปที่เหมาะกับความต้องการแล้วเริ่มสร้างสรรค์ผลงานกันดูนะครับ